เจิ้งส่วง รับชีวิตตกต่ำ ต้องดื่มน้ำประปา ประหยัดยันกระดาษชำระ!

เจิ้งส่วง รับชีวิตตกต่ำ ต้องดื่มน้ำประปา ประหยัดยันกระดาษชำระ!

อดีตซุป’ตาร์สาว ‘เจิ้งส่วง’ รับชีวิตตกต่ำ ต้องดื่มน้ำประปา ประหยัดยันกระดาษชำระ! หลังมีข่าวทิ้งลูกอุ้มบุญทั้ง 2 คน เพราะเลิกกับแฟนเก่า เจิ้งส่วงชีวิตตกต่ำ – ก่อนหน้านี้กลายเป็นข่าวดราม่าร้อนแรงกันไปทั่วโลกโซเชียล หลังโปรดิวเซอร์ดัง ‘จางเหิง (Zhang Heng)’ ได้ออกมาแฉกลับอดีตแฟนสาว ‘เจิ้งส่วง (Zheng Shuang)’ นางเอกจากซีรีส์ดัง ‘รักใสใส หัวใจสี่ดวง’ หลังฝ่ายหญิงได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีอดีตแฟนหนุ่มในข้อหาการกู้ยืมเงิน

โดยทางจางเหิงได้ออกมาโพสต์แฉอดีตแฟนสาวผ่านทางบัญชีส่วนตัวในเว่ยป๋อ 

ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมเผยว่า ที่เขาต้องอยู่ที่นี่ก็เพราะกำลังดูแลลูกทั้ง 2 คน อยู่ โดยเป็นลูกของเขากับเจิ้งส่วงที่มาจากการอุ้มบุญ พร้อมโชว์ใบสูติบัตรเพื่อเป็นหลักฐานโดยมีชื่อพ่อและแม่ยืนยันอยู่ชัดเจน

หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปทางนางเอกสาวก็ถูกทางการจีนแบน งานทุกอย่างถูกยกเลิกสัญญาหมด เสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก หนำซ้ำบัญชีเงินฝากก็ถูกอายัดจากโดนสืบสวนเรื่องการหนีภาษี

ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาเปิดใจ เล่าเรื่องรางชีวิตความเป็นอยู่ที่เธอต้องเผชิญอยู่ เผย เธอต้องดื่มน้ำประปาเพื่อประทังชีวิต เงินที่ได้ก็มาจากการอาศัยเพื่อนสนิท ทำให้ต้องประหยัดยันกระดาษชำระ โดยระบุว่า

“ถ้าบอกแล้วจะทำให้พวกคุณรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง ฉันก็ขอบอกว่าตอนนี้ต้องกินน้ำประปาทุกวัน มีเสื้อผ้าอยู่แค่เสื้อยืด 5 ตัวกับกางเกงยีนสองตัว และไม่เคยได้สิ่งของกินอะไรเลย ฉันต้องประหยัดถึงที่สุด แม้แต่กระดาษชำระยังต้องใช้แต่ที่จำเป็นเท่านั้น” หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ลบข้อความโพสต์ดังกล่าวออกไปทั้งหมด

แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทย ได้เปิดเผยว่าทางการสหรัฐฯบริจาควัคซีนให้ประเทศไทย รวม 2.5 ล้านโดส สำนักข่าว วอยซ์ออฟอเมริกา รายงานว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทยได้กล่าวในพิธีเปิดงานเสวนาออนไลน์ว่าทางการสหรัฐเตรียมส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้ไทยทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส โดยจัดส่งชุดแรกให้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส

โดยพันโทหญิง ลัดดา แทมมี กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่าโรคระบาดไม่จำกัดพรมแดน หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขในภูมิภาคหนึ่งจะไม่มีภูมิภาคใดที่ปลอดภัย ดิฉันทราบถึงประกาศล่าสุดที่เราส่งวัคซีนโควิดไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส (ให้แก่ไทย) ซึ่งที่จริงแล้วจะมีทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส แต่การจัดส่งชุดแรกมีวัคซีน 1.5 ล้านโดส”

“ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย”

ก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์เป็นจำนวน 1.5 ล้านโดส โดยในจำนวนดังกล่าวจะถูกไปนำมอบให้เจ้าหน้าที่แพทย์เพื่อนำไปฉีดเป็นวัคซีนเข็มสามและเป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานป้องกันโควิด

โควิดเมียนมา อ่วม! รัฐบาลขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ

กองทัพเมียนมา ออกมาขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ หลังจากที่ โควิดเมียนมา วิกฤติหนัก ยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย ได้รายงานโดยอ้างอิงจากสื่อในประเทศเมียนมาว่ากองทัพกำลังขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเมียนมา กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลได้หารือกับประเทศในกลุ่มอาเซียน และ ประเทศที่เป็นมิตร เพื่อขอความร่วมมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไม่ได้อธิบายในประเด็นนี้เพิ่มเติม

ประเทศเมียนมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่หยุดทำงานเพื่อประท้วงการก่อรัฐประหาร ทำให้ประเทศเมียนมาขาดแคลนทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์

โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาทางการเมียนมาพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เกือบ 5 พันราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 350 ศพ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ายอดผู้ป่วยและจำนวนผู้เสียชีวิตจริงสูงกว่าที่รายงาน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ หรือ KCDC ได้ออกมาเปิดเผยผลการวิจัย ฉีดวัคซีนผสมสูตร แอสตร้าฯ+ไฟเซอร์ เพิ่มภูมิต้านทานโรคโควิดได้

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน สำนักข่าว รอยเตอร์ ได้รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) ได้ออกมารายงานถึงผลการวัคซีนผสมสูตรระหว่าง แอสตร้าเซเนก้า เข็มที่หนึ่งและ ไฟเซอร์ เข็มที่สอง สามารถช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีชนิด Neutralizing Antibody ได้ถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดแอสตร้าเซเนกาสองเข็ม

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า